วันนี้มีบทความดีๆมาบอกกล่าวกัน...!!
การตำหนิคนอื่นเป็นเรื่องไม่ควรกระทำ
.ถึงแม้เราจะรู้ชัดว่าใครคนไหนเป็นคนไม่ดีใช้ไม่ได้ ก็ไม่ควรไปตำหนิติเตียน วิจารณ์เค้าให้เมื่อยปากเสียเวลา เพราะ...
.
1.คุณจะเครียดและจิตใจขุ่นมัวมากขึ้น
เพราะคนที่คิดตำหนิติเตียนผู้อื่นอยู่เสมอ จิตใจก็คงต้องเผลอไปจดจ่อให้ค่ากับบุคคลที่กำลังถูกวิจารณ์
ยิ่งรวมกลุ่มสุมหัว ยิ่งช่วยกันขุดคุ้ยหาข้อเสีย
ยิ่งตำหนิยิ่งเมามัน ยิ่งนินทายิ่งคันปาก ยากที่จะหยุด
ในบางคนถึงขั้นหงุดหงิดปรี๊ดจนเสันเลือดขมับปูดโปน
เรื่องสุขใจคงไม่มีทางเป็นไปได้ แต่เรื่องหัวใจวายนี่สิ...ไม่แน่
.
2.เขาคงไม่ได้รับฟัง
ไม่ว่าเราจะตำหนิวิจารณ์ต่อหน้าหรือลับหลัง ก็ไม่มีทางจะเข้าหูเขา
ไม่ใช่เพราะเขาไม่ได้ยิน แต่เพราะเขาไม่ยอมรับฟังต่างหาก
ก็ในเมื่อเรารู้อยู่ว่าเขานั้นๆเป็นคนไม่ดี การที่เขาจะได้สติน้อมรับวิจารณ์นั้น...คงไม่ง่าย
เขาจะรู้สึกว่าเราไปก่นด่าให้เขาอับอายมากกว่ามอบความหวังดี
ถ้าเขามีปฏิกิริยาโต้กลับ ก็จะเหมือนเอาน้ำมันไปราดไฟ รังแต่จะยั่วยุให้ผูกใจเจ็บ อาฆาตกันไม่จบไม่สิ้น
ถ้าเขาไม่แยแสใยดี ก็เหมือนเอาน้ำไปรดหลังหมา หมามันก็สลัดขนจนน้ำกระเด็นกระจาย
.
3.เท่ากับเรากำลังยกตนข่มเขาโดยปริยาย
คนที่จะว่าคนอื่นว่าไม่ดีได้ ในทางกลับกันก็แปลว่าคนๆนั้นกำลังชมตัวเองว่าดีกว่าในทีอยู่แล้ว
ถึงแม้เราจะไม่คิด คนรอบข้างทั้งเค้าและเราก็อาจจะคิด
ถ้าพอกพูนไปเรื่อยๆ เราก็อาจจะมีนิสัยที่ชอบอวดตัวเหยียบหัวคนอื่นอยู่เรื่อยๆ
เมื่อเป็นแบบนี้แล้วย่อมไม่มีผลดีต่อเราแน่นอน
.
"ทางที่ดีเราควรเอาเวลาดังกล่าว
ทั้งหมดมานั่งมองตัวเอง
วิจารณ์ตนเอง แก้ไขปรับปรุง
ตัวเองจะดีกว่ามาก"
.
****
nick genie
.
(ชินวัตร เก็บมาฝาก)
ขอแนะนำโอกาสดีๆแก่ท่านด้วยครับ..,,,,!!
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น