วันอาทิตย์ที่ 24 กันยายน พ.ศ. 2560

งานไร้ออฟฟิต

Phil Pallen นักการตลาด นักการประชาสัมพันธ์ และนักกลยุทธ์การสร้างแบรนด์ เดินทางจากเมืองหนึ่งไปยังเมืองหนึ่งเพื่อพบลูกค้าบุคคลไปจนถึงบริษัท ที่ต้องการสร้างภาพลักษณ์องค์กรแบบดั้งเดิมและในสื่อสังคมออนไลน์ 

Phil เล่าว่า ไม่กี่สัปดาห์ก่อน เขาใช้ชีวิตบนเครื่องบินร่วม 41 ชั่วโมงต่อสัปดาห์ เดินทางไปรอบโลก เริ่มตั้งแต่นครลอสแองเจลีส ยุโรป ตะวันออกกลาง เอเชีย และบินกลับมาลอสแองเจลีสอีกครั้ง แต่ที่น่าประหลาดใจกว่า คือ Phil ไม่มีออฟฟิศประจำเป็นของตัวเอง!





Phil ใช้ออฟฟิศร่วมของบริษัท WeWork ที่มีมากถึง 200 แห่ง ใน 50 เมืองทั่วโลก ซึ่งถือเป็นเรื่องปกติของผู้คนใน Silicon Valley Hub ด้านเทคโนโลยีของโลกในซานฟรานซิสโก ที่มีบริษัทส่วนกลางดูแลเป็นออฟฟิศรองรับบริษัทสตาร์ทอัพด้านเทคโนโลยีหลายเจ้าพร้อมกัน

Charles Du ผู้จัดการด้านสินค้าซอฟต์แวร์ในแคลิฟอร์เนีย เรียกปรากฏการณ์นี้ว่า "Digital Nomad" หรือ "พนักงานไร้ออฟฟิศ" ที่ใช้เทคโนโลยีช่วยในการทำงาน อาทิ ผู้จัดการด้านเทคโนโลยี นักการตลาด นักประชาสัมพันธ์ นักบัญชี นักกฎหมาย อาจารย์มหาวิทยาลัยในคอร์สเรียนออนไลน์ 

อาชีพเหล่านี้ส่วนใหญ่ต้องนั่งหน้าจอคอมพิวเตอร์ แต่มีภารกิจหลักๆ คือการเดินทางไปพบลูกค้าหรือลูกความในที่ต่างๆ ซึ่งพวกเขาสามารถเข้าไปใช้พื้นที่ออฟฟิศร่วมที่มีอยู่ต่างเมืองต่างประเทศได้ 

โดยต้องการเพียงพื้นที่ออฟฟิศ Wi-Fi และอุปกรณ์ทำงานที่จำเป็นอื่นๆ 

Digital Nomad
Digital Nomad

ด้าน John Maeda อดีตอาจารย์จาก MIT และอดีตคณบดีของคณะออกแบบ มหาวิทยาลัย Rhode Island บอกว่า การทำงานทางไกลแบบ Digital Nomad ช่วยปรับเปลี่ยนความคิดสร้างสรรค์ เปิดโอกาสให้มีการทำงานเชิงถ่ายทอดองค์ความรู้ แทนการพึ่งพากำลังแรงงานที่หาได้เฉพาะในพื้นที่เท่านั้น 

ขณะที่ข้อจำกัดของกลุ่มคนที่ทำงานโดยไม่พึ่งพาออฟฟิศ คือ การหาออฟฟิศชั่วคราวในต่างเมือง ที่พัก เพื่อนฝูง แต่ทุกอย่างอาจหามาได้ไม่ยากเมื่อมีอินเทอร์เน็ต 

และตอนนี้ก็มีหลายเมืองที่กำลังรองรับพนักงานเหล่านี้ ได้แก่ เมือง Ubud บนเกาะบาหลีของอินโดนีเซีย และจังหวัดเชียงใหม่ของประเทศไทย

Digital Nomad มีศักยภาพท่ามกลางการแข่งขันในตลาดท้องถิ่นและในระดับโลกที่เข้มข้นขึ้น เพราะสามารถผลิตสินค้าและบริการเพื่อตอบโจทย์ผู้คนทั้งในและต่างประเทศได้ 

ซึ่งนักการตลาดและนักกลยุทธ์การสร้างแบรนด์ อย่าง Phil เชื่อมั่นว่า การได้เปิดหูเปิดตาในหลากหลายพื้นที่ ทำให้เขาได้รู้จักการใช้ชีวิตของผู้คนทั่วโลก และเป็นแรงบันดาลใจในการสร้างสรรค์ผลงานของเขาได้นั่นเอง

วันศุกร์ที่ 8 กันยายน พ.ศ. 2560

สำเร็จหรือล้มเหลว....!


ถ้าเรามีเป้าหมายในชีวิตที่ใหญ่ อุปสรรคที่เกิดขึ้นในชีวิตก็จะดูเล็ก 
ถ้าเรามีเป้าหมายที่เล็กอุปสรรคในชีวิตก็จะใหญ่
คนที่ประสบความสำเร็จ ไม่เคยยอมแพ้ต่ออุปสรรคในชีวิต
และสิ่งที่เรียกว่า"โชคชะตา"
เขาเชื่อว่าสิ่งต่างๆในชีวิตเขานั้นเป็น"ความโชคดี"เสมอ
เป็นคนมองโลกในแง่บวกอยู่ตลอดเวลา 
การมองโลกในแง่บวก คือการ"หาจุดดีในจุดเสีย"
ซึ่งจะทำให้เรามีความสุขในชีวิตมากขึ้นด้วย
และสิ่งที่สำคัญที่ทำให้คนไม่ประสบความสำเร็จเลยคือ "ความกลัว"
ที่นโปเลียน ฮิลล์ ผู้เขียน think and grow rich กล่าวไว้ว่า
มีปีศาจแห่งความกลัว 6 ประการ ที่จะทำให้คนไม่สำเร็จ
นั่นคือ กลัวแก่ กลัวเจ็บ กลัวตาย 
กลัวคำวิพากษ์วิจารณ์ กลัวการสูญเสียความรัก กลัวจน
การที่คนหลายคนไม่ก้าวไปตามความฝันก็เพราะความกลัว 6 ประการนี้
และสุดท้ายทำให้เขามีชีวิตเหมือนคนส่วนใหญ่บนโลก ที่ใช้ชีวิตไปตามกระแส
คนที่ประสบความสำเร็จในชีวิตเป็นคนส่วนน้อย ที่กล้าสวนกระแสของโลกใบนี้
ถ้าเราอยากประสบความสำเร็จในชีวิตบ้างก็ต้อง
"คิดอย่างคนประสบความสำเร็จคิด ทำอย่างที่คนประสบความสำเร็จทำ"
ทุกสิ่งในโลกนี้ล้วนเป็นไปตามหลักเหตุและผล
ถ้าเราอยากได้"ผล" เราก็ต้องทำ"เหตุ"ให้ดี
ถ้าเราไปถามคนที่ไม่เคยสำเร็จในเรื่องนั้นๆ เราจะได้สิ่งที่เรียกว่า "ข้อคิดเห็น"
"ข้อคิดเห็น"ไม่มีถูกหรือผิดและ"เป็นจริงเสมอสำหรับคนๆนั้น"
การที่เราเลือกจะเชื่อใครสักคน ดูที่"ผลลัพธ์"
ถ้าเราอยากเป็นนักกีฬาว่ายน้ำที่สำเร็จ เราคงไม่ไปถามคนว่ายน้ำไม่เป็น
เพราะคนเหล่านั้นจะตอบว่า ...
"อย่าลงไปเลย น้ำมันน่ากลัว นายโดดลงไปก็ตายแน่้"
นั่นเป็นสิ่งที่"คนส่วนใหญ่"ทำกัน
และบางคนทำสิ่งเหล่านี้อยู่ทุกวัน ทั้งๆที่ไม่รู้ว่า
ตัวคุณกำลังไปถามคน"ว่ายน้ำไม่เป็น" อยู่
ถามตัวเองว่าวันนี้คุณยังทำแบบนั้นอยู่ไหม?
เพราะฉะนั้น เวลาคุณจะเลือกทำอะไร
ต่อไปให้"ถามผู้ประสบความสำเร็จในเรื่องนั้นๆ"
ไม่ว่าเรื่องนั้นจะเป็นเรื่องอะไรก็ตามที่คุณอยากทำ
บางครั้งเราดูคนประสบความสำเร็จ ดูเหมือนสิ่งที่เขาได้มานั้น
เป็นเพราะเขา"เก่ง" เราชอบนึกว่า 
"ใช่สิ ก็เขาเก่งนี่ ฉันไม่เก่งฉันทำไม่ได้อย่างเขาหรอก"
คุณรู้ไหมว่า มีสิ่งคนสำเร็จต่างจากคุณสุดขั้วเพียง 1 ข้อ
ไม่ใช่"ความเก่ง" แต่เป็น "ความเชื่อ" 
เขาเชื่ออย่างไม่มีข้อสงสัย ว่าเขา "ทำได้"
และเขา"ลงมือทำ"สิ่งที่จะทำให้เข้าใกล้เป้าหมายของเขาไปเรื่อยๆ ทุกๆวัน
วันละเล็กละน้อยการที่เขาบรรลุเป้าหมายเล็กๆของเขาทุกวันนั้น
มันเหมือนลูกบอลหิมะ ที่ค่อยๆกลิ้งลงมาจากภูเขา
สักวันมันจะกลายเป็นหิมะถล่มที่ยิ่งใหญ่
เพราะความสำเร็จที่ยิ่งใหญ่ มาจากการที่เราบรรลุเป้าหมายเล็กๆ ในทุกวัน
และสิ่งสำคัญอีกข้อ ที่คนประสบความสำเร็จ แตกต่างจากคนอื่นๆคือ
"การยืนหยัด"คนที่ล้มเหลวมักจะัเกิดจากการ"ล้มเลิก"
ความล้มเหลวที่เกิดขึ้นสำหรับผู้ที่ประสบความสำเร็จนั้น
ถือเป็นเรื่อง"ชั่วคราว" เพราะเขาจะคิดว่า 
"นี่คือสิ่งที่จักรวาล มอบให้เรา เพื่อให้เราเรียนรู้มากขึ้น
เราโชคดีจริงๆ ที่ได้เรียนรู้เรื่องนี้ในวันนี้ 
วันข้างหน้าเราจะได้ไม่ทำผิดพลาดในเรื่องเดิมๆ"

วันอังคารที่ 5 กันยายน พ.ศ. 2560


1.การวิจัยการตลาด เพื่อศึกษาข้อมูล ในการทำธุรกิจถือเป็นสิ่งสำคัญ ในการเริ่มต้นทำธุรกิจ ให้ประสบผลสำเร็จ
2.การศึกษาพฤติกรรมของกลุ่มเป้นหมาย จะทำให้เห็นช่องทาง ในการทำธุรกิจ ที่ตอบโจทย์ ความต้องการ ของกลุ่มเป้าหมายได้
3.การทำธุรกิจที่ดี ต้องเข้าจจุดเด่นของสินค้า และ ความสำคัญของสินค้า
4.การนำสินค้าไปขายถึงกลุ่มเป้าหมาย ช่วยเพิ่มยอดขาย ได้อย่างรอดเร็ว 
5.การบริการลูกค้าด้วยมนุษย์สัมพันธ์ที่ดี จะทำให้ลูกค้าเกิดความประทับใจ 
6.สิ่งสำคัญที่สุดของคนเรา 1. ต้องเชื่อมั่นในตัวเอง 2. ต้องมีความพยายาม ขอแค่พยายาม และคุณจะมีทุกอย่าง
7.การทุ่มเท ให้กับงานอย่างเต็มที่ แล้วจะได้รับในสิ่งที่ต้องการ
8.ความสำเร็จอาจทำให้เราภาคภูมิใจ แต่ความผิดผลาดต่างหากที่ทำให้เราเติมโต
9.อุปสรรคเป้นเพียงบททดสอบ ที่ต้องก้าวผ่านไปให้ได้
10.สิ่งสำคัญที่ทำให้ธุรกิจประสบผลสำเร็จ คือ ต้องรักในสิ่งที่ทำ และทุ่มเท
11.ทุ่มเทให้กับงาน อย่างเต็มที่ แล้วจะได้รับในสิ่งที่ต้องการ
12.ทีมงาน Teamwork เป็นสิ่งสำคัญ ธุรกิจดี ทีมงานไม่ Work จบ
13.การออกแบบสินค้าให้มี ความโดดเด่น และแตกต่าง สามารถดึงดูดความสนใจ ของลูกค้า
14.การเริ่มต้นทำธุรกิจ ต้องมีความเชื่อมั่น และตั้งใจทำให้ดีที่สุด 
15.การวิจัยตลาดเพื่อศึกษา ข้อมูลในทำธุรกิจ ถือเป็นสิ่งสำคัญ ในการทำธุรกิจ
15.ช่องว่างทางธุรกิจ มีอยู่รอบตัว สังเกตุและนำมาใช้ พัมนาให้แตกต่าง
16.ถ้าเราไม่หยุดคิด ความสำเร็จ จะมาถึง
17.พละกำลัง ไม่สำคัญเท่าสมอง ขอแค่แปร จุดด้อย ให้เป็นจุดแข็ง
18.ถ้าเกิดปัญหาอย่าท้อถอย ค้นหาจุดบกพร่อง ให้เจอ แล้วแก้ไขพัฒนา ให้ดีขึ้น
19.ถ้าสิ่งที่เราทำนั้นไม่มีอุปสรรค แล้วมันจะยิ่งใหญ่ได้อย่างไร 
20.ยิ่งคุณช่วยเหลือผู้อื่นได้มาก ความสำเร็จของคุณก็ยิ่งใหญ่มาก
21.คำว่า เป้นไปไม่ได้ อยู่ในพจนานุกรม ของคนที่ยอมแพ้
22.ไม่มีใคร ทำให้เรา ต้อยต่ำได้ ถ้าเราไม่ยินยอม
23.ชีวิตไม่ใช้การค้นหาตัวตนของเรา แต่มันคือการสร้างตัวตนของเราให้ดีขึ้น 
24.คนที่ประสบความสำเร็จนั้นเคยล้มเหลว แต่ไม่เคยยอมแพ้
25.มนุษย์เรามีศักยภาพกันทุกคน เพียงแต่คุณยังไม่ค้นพบ สิ่งนั้น ถ้าคุณยังไม่มีเป้าหมาย และลงมือทำอย่างตั้งใจ
26.ไม่ว่าคุณอยู่ธุรกิจอะไร จะมีคนคอยบั่นทอนกำลังใจอยู่เสมอ ดังนั้นคุณต้องเอาชนะให้ได้ ในแบบตัวเอง
27.อย่าจมอยู่ กับความล้มเหลว แต่จงออกไปเผชิญหน้ากับมัน
28.หากคุณทำสิ่งที่ยิ่งใหญ่ไม่ได้ ก็ทำสิ่งเล็กๆ ด้วยความยิ่งใหญ่แทน
29.สิ่งที่แย่ที่สุด ไม่ใช่ความล้มเหลว แต่เป็นการที่หลงคิดว่า ตัวเองไม่เอาไหน
30.คุณอย่างคิดว่า จะให้ ลามาแทนม้า ลาก็คือลา คุณจะสอนปลาให้ปีนต้นไม้ การใช้คนเช่นกัน ทุกคนความสามารถไม่เท่าเทียมกัน
31.ไม่ต้องเก่งที่สุด แต่ขอดีที่สุด ในสิ่งที่เลือกยืน
32.ความเลี่ยง คือ การไม่รู้ว่า ตัวเองทำอะไรอยู่
33.การลงทุนไม่ได้วัดกันที่อายุ ยิ่งเริ่มต้นเร็ว โอภาสที่จะประสบความสำเร็จ ฏ็มากกว่าคนอื่น
34.เงินไม่ได้ทำให้เกิดความคิด แต่ความคิดต่างหากที่ทำให้เกิดเงิน
35.ให้เงิน ทำงานแทนเรา หรือ ให้เราทำงานเพื่อได้เงิน การลงทุน หลายทางเพื่อลดความเสี่ยง
36.ความลับของความสำเร็จ คือการทำงานของคุณ ให้เหมือวันหยุดของคุณเอง
37.โอกาสที่ดี คุณไม่สมารถมองเห้นด้วยตา แต่คุณจะมองผ่านทัศนคติ
38.ลองมองปัญหาเหมือนเม็ดทราย ถึงจะเยอะมาก แต่ก็เล็กนิดเดียว
39.การทำในสิ่งที่เราชอบ จะทำให้เรามีความสุข และ งานที่ออกมา มีประสิทธิภาพ
40.ไม่มีความหวังที่มากเกินไป แต่การลงมือทำน้อยไป 
41.สิ่งที่เป็นไปได้ยาก ก็ไม่ได้หมายความว่า เป็น ไปไม่ได้ 
42.งานบางอย่าง ไม่สามารถทำคนเดียวได้ ต้องทำงานเป็นทีม และแบ่งปั่นความสำเร็จไปด้วยกัน
43.อย่ากลัวกับการเริ่มต้นใหม่ ในเมื่อคนเราสมารถพัฒนาตัวเองให้ดีขึ้นได้
44.สิ่งหนึ่งที่สำคัญมากๆ ก็คือ โอกาสเพราะโอกาสไม่ได้มาหากันได้ง่ายๆ 
45.แค่คุณมีใจเริ่มต้นที่ดี ทุกอย่างก็สำเร็จขึ้นได้
46.คนเราจะพบโอกาสและโชคช่วยได้ ก็ต่อเมือลงมือทำ ไม่ใช้รอคอย
47.สินค้าที่ดี จะขายดัวยตัวมันเอง 
48.4P (Product , Price , Place , Promotion) สินค้าดี มีความแตกต่าง ราคาจบต้องได้ จุดขายเข้าถึงผู้บริโภค การลดราคา โฆษณา
49.หาช่องทางการขายที่เหมาะสม จัดเตรียมโปรโมชั่นกระตุ้นการซื้อ จำลูกค้า/รักษาลูกค้าไว้
50.สร้างความน่าเชื่อถือให้ร้านค้า ให้ข้อมูล แนะนำในสิ่งที่ดี แถมของเล็กๆ น้อยๆ

วันอาทิตย์ที่ 3 กันยายน พ.ศ. 2560

โลกไร้เงินสด

จะเป็นอย่างไรเมื่อสังคมไร้เงินสด (CashlessSociety) เกิดขึ้นจริงในประเทศไทย?




ตื่นเช้ามาเดินทางไปทำงานด้วยรถไฟฟ้า BTSใช้โทรศัพท์มือถือแตะเบาๆที่ประตูทางเข้า ค่าโดยสารก็ถูกเรียกเก็บ โดยหักจากวงเงินที่ผูกไว้กับบัตรแรบบิท ระหว่างทางแวะซื้อกาแฟที่ Café Amazon ใช้บัตร PTT Blue Card แตะเบาๆ เพื่อตัดแต้มคะแนนสะสมที่ได้จากการเติมน้ำมันที่ปั๊ม ปตท. พอถึงพักเที่ยงก็ไปกินข้าวที่ฟู้ดคอร์ทใต้ตึก ใช้บัตรพนักงานกดตึ๊ดๆ เพื่อไปหักเงินในบัญชีที่ผูกไว้กับบัญชีเงินเดือน ตกเย็นแวะไปดูหนังที่เมเจอร์ ชำระเงินด้วยบัตร M-Cash ที่เติมเงินไว้แล้วก่อนกลับแวะซื้อของที่ Tops Supermarket ควักโทรศัพท์มือถือขึ้นมาสไลด์นิ้วมือขึ้นเพื่อเปิดแอปฯ Samsung Pay ยืนยันการชำระเงินด้วยลายนิ้วมือที่ผูกไว้กับบัตรเครดิตแล้วค่อยแตะสมาร์ทโฟนบนเครื่องรับชำระเงิน ขากลับเรียกรถ Uber มารับชำระเงินด้วยบัตรเครดิตที่ผูกไว้กับแอปฯ สรุปทั้งวันไม่ได้ควักเงินสดออกมาใช้เลยสักบาท

นี่เป็นเรื่องที่เกิดขึ้นจริงแล้ว เพียงแต่ระบบการชำระเงินของไทยนั้นมีความหลากหลายมากถึงมากที่สุด ถ้าไม่นับการชำระเงินด้วยเงินสดผ่านเคาน์เตอร์แล้ว คนไทยจะต้องเปิดกันกี่บัญชี ถือกันกี่บัตร สมัครสมาชิกกันกี่ค่าย โหลดกันกี่แอปฯ ในเมื่อระบบของแต่ละธนาคาร ค่ายโทรศัพท์มือถือ และแบรนด์ต่างๆ มีการเชื่อมต่อกันแบบไม่เบ็ดเสร็จ จนบัดนี้บัตรแมงมุมที่คาดว่าจะมาตอบโจทย์เรื่องการเดินทางทั้งบนดินและใต้ดินก็ยังไม่แล้วเสร็จอย่างที่ตั้งใจไว้

รู้ทั้งรู้ว่าเทรนด์ Cashless Society นี่มาแน่ เพราะบางประเทศในยุโรปก็เลิกผลิตธนบัตรกันแล้ว คนอเมริกันนั้นคุ้นเคยกับการชำระเงินผ่านช่องทางดิจิทัลมานานแล้ว ส่วนพี่จีนก็ใช้ WeChat Pay และ Alipay สำหรับการทำธุรกรรมจนเกือบจะกลายเป็นช่องทางหลักของธุรกิจบริการและการค้าออนไลน์ไปแล้ว จนล่าสุดอินเดียถูกมองว่าน่าจะเป็นประเทศแรกที่สามารถผลักดันจนกลายเป็นสังคมไร้เงินสดโดยสมบูรณ์ได้ก่อนใครเพื่อน

คุณอาจนึกสงสัยว่าทำไมรัฐบาลแต่ละประเทศจึงหันมาสนับสนุนนโยบายนี้กันนัก?คำตอบของคำถามนี้คือ ข้อดีของ Cashless Society คือนอกเหนือจะป้องกันการถูกโกงจากเงินปลอมและการโจรกรรมแล้ว การทำธุรกรรมผ่านระบบดิจิทัลจะทำให้สามารถตรวจสอบเส้นทางการไหลผ่านของเงินได้ หรืออีกนัยหนึ่งคือ รัฐสามารถสกัดกั้นการฟอกเงินและสามารถเรียกเก็บภาษีได้เพิ่มขึ้นจากการประเมินปริมาณธุรกรรมที่ทำผ่านระบบออนไลน์ แต่ที่เรื่องนี้ยังไปไม่ถึงไหน ก็เพราะความไม่พร้อมในหลายๆ ด้าน ตั้งแต่คนที่มีรายได้น้อยยังไม่สามารถเข้าถึงระบบได้ (คนกลุ่มนี้ไม่มีเงินสดเหลืออยู่ในมือ มีแต่หนี้สินที่มีอยู่เต็มสองมือ) ความรู้ความเข้าใจที่ถูกต้องเกี่ยวกับระบบการชำระเงินแบบดิจิทัลที่ยังจำกัดอยู่ในวงที่ค่อนข้างแคบ อีกทั้งรัฐก็ยังต้องเรียนรู้เพื่อที่จะแก้ไขข้อบกพร่องที่มีอยู่  

แรงผลักจากภายนอกและภายในที่มากพอจะเป็นตัวจุดประกายที่ทำให้สังคมไร้เงินสดเกิดขึ้นจริงเป็นรูปธรรมได้ ปัจจัยที่ว่ามีอยู่ด้วยกัน 3C คือ Convenience ความสะดวกสบายในการเข้าถึงและการใช้งานที่ง่าย ไม่ยุ่งยากซับซ้อน Customer Benefits สิทธิประโยชน์ที่ลูกค้าได้รับจะเป็นแรงจูงใจที่ทำให้คนไทยยอมเปลี่ยนแปลงพฤติกรรม ความคุ้มค่า หรือความประหยัดคือประเด็นที่ไม่ควรมองข้าม Critical Mass การใช้งานที่แพร่หลายจนถึงจุดที่ว่า ‘ใครๆ ก็ใช้กัน’ จะทำให้คนที่กล้าๆ กลัวๆ หันมาใช้ตามกัน ทีนี้ก็ต้องไปฟาดฟันกันว่าระบบ Digital Currency ของใครมีความเจ๋งกว่า คนใช้เยอะกว่า จนกลายเป็นมาตรฐานสกุลเงินใหม่สำหรับการซื้อขายแลกเปลี่ยนสินค้าและบริการ  

เชื่อแน่ว่าเศรษฐกิจไร้เงินสด หรือ Cashless Economy มันจะเกิดขึ้นจริงในประเทศไทย อาจจะไม่เร็วนัก แต่มันจะเริ่มมีผลต่อชีวิตประจำวันของเราทีละนิดละน้อยโดยที่เราอาจไม่รู้ตัวเมื่อเราสามารถทำให้มันสะดวก คุ้มค่า และแพร่หลาย

ข้อควรระวังเมื่อBitcoinกำลังบูม


ช่วงที่ผ่านมา มีคนมาถามเยอะมากว่า Bitcoin ราคาดี ควรเข้ามาลงทุนใน Bitcoin หรือไม่ เลยคิดว่าควรใช้พื้นที่ตรงนี้อธิบายเรื่องนี้ด้วยเช่นกัน
 
อย่างแรกคือไม่สามารถฟันธงได้ตรงๆ ว่าควรลงทุนใน Bitcoin หรือไม่ แต่แนะนำเป็นอย่างยิ่งว่าท่านควรทำความเข้าใจ Bitcoin (หรือสกุลเงินดิจิทัลอื่นในลักษณะเดียวกัน) อย่างลึกซึ้งและถ่องแท้ ก่อนลงทุนใน Bitcoin
 
ประเด็นสำคัญของ Bitcoin ที่ควรรับทราบไว้ก่อนเข้าสู่วงการนี้ มีดังนี้
 
1.Bitcoin ถูกออกแบบให้มีปริมาณจำกัด  โดยค่อยๆ ทยอยเกิดขึ้นตามระยะเวลา เมื่อถึงอนาคต (อันค่อนข้างไกล)ถ้าหาก Bitcoin ถูกจับจองเป็นเจ้าของหมดแล้ว จะไม่สามารถสร้างขึ้นใหม่ได้
2.แต่สกุลเงินดิจิทัลอื่นๆ ที่เลียนแบบ Bitcoin อาจไม่มีข้อจำกัดแบบเดียวกัน ดังนั้น ต้องดูรายละเอียดให้ดีหากจะไปเล่นเงินสกุลอื่น
3.Bitcoin ไม่สามารถทำปลอมได้(ณ ขณะนี้) เพราะมีพื้นฐานมาจากการเข้ารหัสที่ถอดยาก และสถาปัตย-กรรมที่ออกแบบให้มีสำเนาข้อมูลหลายๆ ชุด กระจายกันอยู่ทั่วโลกเพื่อยืนยันความถูกต้องซึ่งกันและกัน
4.ในขณะเดียวกัน ถ้าหากเราทำไฟล์ Bitcoin หาย มันก็จะหายจากโลกไปเลย เพราะเราไม่สามารถสร้างกุญแจเข้ารหัส Bitcoin ชุดเดิมขึ้นมาใหม่ได้
5.เช่นเดียวกัน หาก Bitcoin โดนขโมย เราก็ไม่สามารถนำกลับคืนมาได้เช่นกัน
6.Bitcoin ไม่มีเจ้าของ ไม่มีหน่วยงานกลางคอยดูแล เป็นระบบกระจายศูนย์อย่างแท้จริง นั่นแปลว่าหากเรามีปัญหากับ Bitcoin ขึ้นมา ก็ไม่มีธนาคารกลางที่ไหนมาช่วยเหลือเราได้
7.การได้มาซึ่ง Bitcoin มีด้วยกัน2 วิธี คือ ‘ขุด’ หรือนำคอมพิวเตอร์ไปร่วมประมวลผลธุรกรรม Bitcoin แลกกับการได้ Bitcoin ล็อตใหม่ที่เกิดขึ้นตลอดเวลา และ ‘ซื้อ’ จาก Bitcoin ที่มีอยู่ในท้องตลาดแล้ว
8.การขุด Bitcoin มีประเด็นเรื่องความคุ้มค่าของผลตอบแทนด้วย เพราะเราต้องลงทุนค่าคอมพิวเตอร์ และค่าไฟที่ใช้ประมวลผล สิ่งที่ได้รับกลับมาจะเป็นเงินสกุล Bitcoin ที่ตีเป็นเงินจริงแล้วขึ้นกับราคาตลาดในขณะนั้น ซึ่งพยากรณ์ได้ยากมากว่าจะคุ้มค่าหรือไม่
9.ปัจจุบันมีการร่วมกัน ‘ขุดเป็นทีม’ เพื่ออำนวยความสะดวกให้นักขุดมากขึ้น ตรงนี้ต้องระวังดีๆ เพราะแต่ละทีมมีการจัดการแตกต่างกันไป บางทีมอาจคิดค่าแรกเข้า หรือค่าธรรมเนียมการได้เงินบางทีมอาจนำ Bitcoin ที่ขุดได้แล้วมาแจกให้เราก่อน แต่ภายหลังอาจปฏิบัติกับเราแตกต่างออกไปด้วย หลายทีมก็เข้าข่ายของแชร์ลูกโซ่
10.การซื้อ Bitcoin มีลักษณะคล้ายกับการซื้อทองตามร้าน คือเรานำเงินจริงไปแลกเป็นสินทรัพย์ (ทอง หรือBitcoin) กับร้านค้า (Exchange) ต่างๆ สิ่งที่ต้องระวังคือจ่ายเงินไปแล้วต้องเช็กให้มั่นใจว่าได้รับสินทรัพย์กลับมาจริงๆ ความน่าเชื่อถือจึงเหมือนกับการซื้อทอง นั่นคือขึ้นกับร้านทองแต่ละร้านว่ามีชื่อเสียงสั่งสมมาอย่างไร  

วันเสาร์ที่ 2 กันยายน พ.ศ. 2560

คน5ประเภทที่ขงเบ้ง ไม่ยอมให้เข้าใกล้

5 คนชั่วที่ขงเบ้งไม่ให้เข้าใกล้


5 คนชั่วที่ขงเบ้งไม่ให้เข้าใกล้
"คน 5 ประเภทที่ไม่ควรใกล้ชิดสนิทสนมเป็นอันขาด"
      ในตำราพิชัยสงครามขงเบ้งนั้นมีอยู่บทหนึ่งได้กล่าวถึงการขจัดความชั่วของบ้านเมือง โดยจัดคนไว้ห้าแบบเรียกว่า "ห้าชั่ว" ซึ่งขงเบ้งได้ให้คำแนะนำเกี่ยวกับการขจัดคนเหล่านี้เอาไว้ว่า

     "คนเหล่านี้ คือ คนเจ้าเล่ห์ขายชาติ เลวทรามต่ำช้า ไร้ศีลสัตย์ ควรปลีกตัวออกห่างให้ไกล อย่าได้เข้าใกล้ชิดสนิทสนมเป็นอันขาด"

     กองทัพจะพ่ายแพ้ บ้านเมืองจะล่มจมเพราะมีห้าชั่ว ได้แก่

1. แบ่งพรรคแบ่งพวก


1. แบ่งพรรคแบ่งพวก

    คนพวกนี้ ชอบตั้งสมัครพรรคพวกเป็นกลุ่มเล็กกลุ่มน้อย แบ่งพรรคแบ่งพวก สมคบคิดกัน เฝ้าจงใจหาเรื่องใส่ร้ายคนดีมีปัญญาให้เสียหาย หาประโยชน์ใส่ตัวและกลุ่มของตนเองด้วยการทำลายผู้อื่น

2. ประพฤติเหลวแหลก


2. ประพฤติเหลวแหลก

     คือคนที่ประพฤติตนผิดขนบธรรมเนียม สวมใส่เสื้อผ้าอาภรณ์หรูหรา ดำรงชีวิตด้วยความฟุ่มเฟือยและสิ้นเปลือง ชอบแต่งกายให้ดูผิดแปลกแตกต่างไปจากผู้คนทั้งหลาย คิดแต่จะได้หน้าได้ตาให้คนสนใจเพราะสิ่งเหล่านี้

3. ล่อลวง


3. ล่อลวง

     คนที่ขยายเรื่องราว สร้างเรื่องที่ไม่ตรงตามความเป็นจริง ปลุกผีร่ายมนต์เผยแพร่ไสยเวท เพื่อให้คนทั้งหลายเข้าใจผิด ชอบคุยโวโอ้อวด สร้างข่าวลือที่เป็นเท็จให้แพร่หลาย

4. เฝ้าจับผิด


4. เฝ้าจับผิด

     คนที่จงใจฟื้นฝอยหาตะเข็บ คอยจับผิด และยุยงให้คนแตกแยกกัน ก่อให้เกิดความสับสนในหมู่คน คิดแค้นผู้อื่นด้วยเรื่องส่วนตัว

5. สอพลอ


5. สอพลอ

     คนปลิ้นปล้อน ประจบสอพลอ คอยเอาใจใส่แต่ผลประโยชน์ส่วนตัว จนถึงขั้นแอบคบค้าสมาคมกับข้าศึกอย่างลับ ๆ ไม่สนใจความเป็นตายของชาติ

     คนเหล่านี้ล้วนเป็นผู้ที่ถึงพร้อมไปด้วยเล่ห์เหลี่ยมกลโกง ไร้ศีลไร้สัตย์

     กับคนทั้งห้าประเภทนี้ พึงปลีกตัวอยู่ให้ห่าง ระมัดระวังอย่าให้ได้ใกล้ชิดสนิทสนม หรือหลงไปไว้เนื้อเชื่อใจเป็น
อันขาด

HEKA ENTER IN THE FINAL STAGE FOR NON-INVASIVE GLUCOSE MONITORING WITH THE CLINICAL TRIAL

HEKA ENTER IN THE FINAL STAGE FOR NON-INVASIVE GLUCOSE MONITORING WITH THE CLINICAL TRIAL
h4g_1000

HEKA Corp. has announced the availability on the Android and iOS app store of H4G, the app designed for the HEKA Advanced PPG Device.

This device measures a high-density PPG through AI and Learning Machine Algorithm: these data will be used to fine-tune the Non-Invasive Glucose Measurement Algorithm, now in a deep testing phase in HEKA Lab.

Five hundred people will be selected trough a dedicated web page and they will be able to participate as contributors in one of the most important social-health project of this century.

It’s really a new era in m-health and HEKA and WOR(l)D are really leading the industry.

Visit the official Heka Corp Website for more information: www.hekacorp.com